Daisypath Wedding Ticker

Saturday, December 27, 2008

นางพญาเสือโคร่ง @ ขุนช่างเคี่ยน







Thursday, December 25, 2008

อุทยานมังกรสวรรค์ | พิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกร | สุพรรณบุรี | Supanburi | Thailand



เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว "อุทยานมังกรสวรรค์" หรือ "พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร" วันก่อน นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรให้คณะจากมติชน-ข่าวสดชมเป็นครั้งแรก

อุทยานแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่อ.เมืองสุพรรณบุรี ใกล้กับศาลหลักเมืองซึ่งอาจจะหนึ่งในไม่กี่แห่งของประเทศไทยที่ก่อสร้างเป็นทรงเก๋งจีน

ในอาณาบริเวณอันกว้างขวาง มองจากภาย นอกนักท่องเที่ยวจะสะดุดตากับความโดดเด่นสง่างามของ "มังกรพ่นน้ำ" ตัวมหึมาทะยานอยู่เหนือเมฆ หันปากไปในทิศที่ไม่ปะทะกับสิ่งสำคัญใดๆ ของเมือง มีขนาดความยาวของลำตัวถึง 100 เมตร สูง 35 เมตร กว้าง 18 เมตร

ก่อสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ.2539 ขณะที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย


นายบรรหารได้มอบหมายให้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ซึ่งต่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเพิ่งจะพ้นสภาพไปเพราะพรรคถูกยุบ เดินทางไปประสานงานกับกระทรวงวัฒนธรรมของจีน เพื่อศึกษาความถูกต้องของประวัติศาสตร์วัฒน ธรรมและวรรณคดีจีน และใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 500 วัน


มีคำถามว่าทำไมต้องเป็นมังกร ก็เพราะชาวจีนเชื่อกันว่า สืบเชื้อสายมาจากมังกรสัตว์ในเทพนิยายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ลำตัวมังกรภายนอก ออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะความเชื่อ หน้าต้องเป็นอูฐ ตาเหมือนกระต่าย มองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น มีเขาของกวาง หูของวัว ตัวของงู เกล็ดของปลา ขาของเสือ อุ้งเท้าของเหยี่ยว สีของลำตัวเลียนแบบเครื่องกังไสโบราณ

ภายใต้ตัวมังกรใหญ่ เป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร" แบ่งออกเป็น 20 ห้อง แต่ละห้องบรรจุเรื่องราวเกร็ดความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ราช วงศ์ วรรณคดี ตลอดจนอารยธรรมอันเก่าแก่ของชาวจีนย้อนหลังไป 5,000 ปี เริ่มตั้งแต่ต้นธารมังกรตำนานการสร้างโลก ชาวจีนเชื่อว่าโลกถูกสร้างขึ้นโดยเทพบิดร "ผานกู่" ซึ่งสละชีวิตแยกแผ่นดิน และแผ่นฟ้าออกจากกัน ธรรมชาติต่างๆ

เป็นต้นว่า พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา สายน้ำ ฯลฯ มาจากเลือดเนื้อร่างกายของ "ผานกู่" สรรพสิ่งทั้งปวงในโลกนี้ล้วนกำเนิดจากที่มาเดียวกันห้องเทพนิยาย (กำเนิดมนุษย์) เทพธิดาหนี่วาปั้นมนุษย์ชาย-หญิงคู่แรก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพี่น้องชาวจีน ขึ้นจากดินแม่น้ำเหลือง แล้วทรงชุบเสกให้มีชีวิต สืบลูกหลานต่อมาถึงปัจจุบัน เป็นเหตุผลว่าทำไมชาวจีนถึงมีผิวเหลือง ห้องตำนาน (เสินหนง) บิดาแห่งสมุนไพร เชื่อกันว่าเป็นบุคคลเดียวกับเอี๋ยนตี้ 1 ใน 2 ปฐมกษัตริย์จีน และยังเป็นผู้ค้นพบใบชา ซึ่งกลายมาเป็นเครื่องดื่มประจำชาติจีนในปัจจุบันห้องตำนาน (ปฐมกษัตริย์) "หวงตี้" - "เอี๋ยนตี้" 2 ผู้นำชนเผ่า




ผู้ร่วมก่อร่างสร้างแผ่นดินจีน เมื่อ 5,000 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปฐมกษัตริย์ที่ชาวจีนยกย่องให้เป็นบรรพบุรุษ เรียกตนเองว่า "ลูกหลานเอี๋ยน-หวง" ห้องราชวงศ์เซี่ย - ซาง ตำนานปลาหลีฮื้อกลายเป็นมังกร "ต้าอวี่" ผู้ค้นพบการแก้ปัญหาอุทกภัยแม่น้ำเหลือง ยุคแห่งการค้นพบสำริด และอักษรกระดองเต่า อักษรจีนยุคแรกในประวัติศาสตร์ห้องราชวงศ์โจว ยุคแห่งนักคิด นักปราชญ์ "ร้อยสำนักประชัน" เล่าจื้อ ผู้ให้กำเนิดลัทธิเต๋า ซุนอู่ ผู้แต่งตำราพิชัยสงคราม "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ไซซี 1 ใน 4 หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า "มัจฉาจมวารี" ขงจื้อ ผู้สอบให้มนุษย์ปฏิบัติต่อกันด้วยความรัก คำสอนของขงจื้อยังคงอิทธิพลต่อชาวจีนถึงปัจจุบัน นีหยวน กวีผู้รักชาติ ต้นกำเนิดขนมบ๊ะจ่าง และประเพณีการแข่งเรือมังกรห้องราชวงศ์ฉิน จิ๋นซีฮ่องเต้ ฮ่องเต้องค์แรกในประวัติศาสตร์ ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน สิ่งก่อสร้างอันน่ามหัศจรรย์สุสานทหารดินเผาที่เลื่องลือไปทั่วโลก ผู้ปฏิรูปอักษรจีน และระบบเงินตราหลากหลายรูปแบบเป็นมาตรฐานเดียวกัน ห้องราชวงศ์ฮั่น ยุคแห่งความรุ่งเรือง และความ ภาคภูมิใจทำให้ชาวจีนเรียกตนเองว่า "ชาวฮั่น" จุดเริ่มของศาสนาพุทธนิกายมหายานในประเทศจีน เส้นทางสายแพรไหมที่เชื่อมต่อการค้าของโลกยุคโบราณยุคแห่งการค้นพบกระดาษ และ หวังเจาจวิน หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า "ปักษีตกนภา"

สามก๊ก จากวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์อันเป็นอมตะ ซึ่งแต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายราชวงศ์ฮั่น ช่วงที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊ก นำเสนอเหตุการณ์สำคัญที่ได้รับการเล่าขานกันต่อมาไม่รู้จบ ยุทธนาวีที่ผาแดง "โจโฉแตกทัพเรือ" ห้องราชวงศ์สุย ปกครองแผ่นดินจีนเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ฝากผลงานสำคัญไว้ในแผ่นดินคือการขุดคลอง "ต้าอวิ่นเหอ" นับพันกิโลเมตร ถือเป็นคลองขุดที่ยาวที่สุดในประเทศจีน เพื่อเป็นเส้นทางประพาสของฮ่องเต้

กระทั่งกลายเป็นเส้นทางการค้าทางน้ำที่สำคัญที่สุดในเวลาต่อมาห้องราชวงศ์ถัง ยุคแห่งความรุ่งเรือง เฟื่องฟู ตำนานวัดเส้าหลิน แหล่งกำเนิดวิทยายุทธ์ที่สืบทอดจากปรมาจารย์ตั๊กม้อ บูเช็กเทียน ฮ่องเต้หญิงองค์แรก และองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน หยางกุ้ยเฟย หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า "มวลผกาละอายนาง" ห้องราชวงศ์ซ่งเหนือ ซึ่งมี เปาบุ้นจิ้น ผู้ทรงความยุติธรรมแห่งศาลไคฟง ตำนานแห่งเครื่องประหารหัวสุนัข พยัคฆ์ และมังกร ชมการตัดสินคดีประหารราชบุตรเขยอันตื่นเต้นเร้าใจห้องราชวงศ์ซ่งใต้ (งักฮุย) ขุนพลผู้รักชาติ ถูกกังฉินใส่ร้ายจนเสียชีวิตด้วยสุราพิษพระราชทาน ที่มาแห่งขนมปาท่องโก๋หรืออิ้วจาก้วย ที่ใช้แป้งเป็นสัญลักษณ์แทนกังฉินผัวเมียนำมาทอดน้ำมัน ขบคี้ยวระบายความแค้น ห้องราชวงศ์หยวน เมื่อชาวจีนถูกปกครองโดยพวกมอง โกลอย่างกดขี่ จึงรวมตัวกันลุกฮือขึ้นต่อต้าน สอดสารลับใส่ขนมเพื่อนัดหมายก่อการโค่นล้มมองโกล



ตำนานที่มาแห่งขนมไหว้พระ จันทร์ ชมสะพานมาร์โคโปโลสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ และหมู่ บ้านจำลองที่มีอายุยาว 700 ปีห้องราชวงศ์หมิง (เจิ้งเหอ) เจิ้งเหอ มหาขันทีผู้รับบัญชาฮ่องเต้ ผู้นำกองเรือมหาสมบัติ "เป่าฉวน" พร้อมลูกเรือกว่า 20,000 ชีวิต ออกสมุทรยาตราทั่วโลกถึง 7 ครั้ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเดินเรือคนสำคัญของโลกตำนานแห่งเทพเจ้าซำปอกง ห้องราชวงศ์หมิง (เครื่องลายคราม)

เครื่องกระเบื้องเคลือบสีขาวเขียนลายน้ำเงิน เอกลักษณ์อันโดดเด่นที่รู้จักกันทั่วโลก ชมการจัดสวนสไตล์จีน และเครื่องเรือนอันงดงามด้วยศิลปะห้องราชวงศ์ชิง (โรงงิ้ว โรงฝิ่น) งิ้วหรืออุปรากร เป็นศิลปะการแสดงอันงดงามวิจิตร ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนาฏศิลป์สำคัญแขนงหนึ่งของโลก ชมเหตุการณ์ปลายราชวงศ์ชิง เมื่อฝิ่นกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวจีนกลายเป็นคนป่วยแห่งเอเชียตะวันออก ก่อให้เกิดสงครามฝิ่นอันนำไปสู่การปล่อยเกาะฮ่องกง ให้เช่านานถึง 99 ปี

ห้องราชวงศ์ชิง (จักรพรรดิองค์สุดท้าย) "ปูยี" ฮ่องเต้วัย 3 ชันษา จากการแต่งตั้งของซูสีไทเฮา ฮ่องเต้องค์สุดท้ายในประวัติศาสตร์ผู้ปิดตำนานการปกครองระบบฮ่องเต้ ผู้ถือว่าเป็นโอรสแห่งสวรรค์ อันยาวนานกว่า 2,000 ปีห้องยุคสาธารณรัฐ จากซุนยัดเซ็นผู้นำการปฏิวัติ โค่นล้มระบอบฮ่องเต้ เปลี่ยนจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ มาถึงเหมาเจ๋อตุงผู้นำประเทศจีนเข้าสู่สังคมนิยม สู่ยุคเติ้งเสี่ยวผิงผู้นำจีนสู่ยุค 4 ทันสมัย กระทั่งกลายเป็นมหาอำนาจของโลกประเทศหนึ่งในปัจจุบันห้องชาวไทยในสยามประเทศ ประ วัติความเป็นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ต้นกำเนิดตระ กูลแซ่ต่างๆ ของบรรพบุรุษสู่อภิชาตบุตร ลงหลักปักฐาน สร้างฐานะเป็นปึกแผ่นภายใต้พระบรมโพธิสมภารความภาคภูมิใจของลูกหลานพันธุ์มังกร และอื่นๆเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนแต่ละห้องจัดแสดงผ่านสื่อผสมอันทันสมัย เช่น ภาพยนตร์ แสง เสียง หุ่นจำลอง ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์อันน่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และอารย ธรรมของชาวจีนที่ทันสมัยและถูกต้องที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 1 ชั่วโมง มีเสียงบรรยาย 3 ภาษา คือ ไทย จีน อังกฤษกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ธันวาคม 2551






ขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายขอให้เครดิตด้วย

Tuesday, December 23, 2008

คู่มือท่องเที่ยวทางจักรยาน Cycling in Amazing Thailand

แจกฟรี!! คู่มือท่องเที่ยวทางจักรยานททท.
จัดทำคู่มือท่องเที่ยวทางจักรยาน Cycling in Amazing Thailand แจกขาเที่ยวให้ปั่นละไมทั่วเมืองไทย การท่องเที่ยวที่ได้รสชาติและมีชีวิตชีวามากที่สุดอย่างหนึ่ง คือ การให้สองขาของเราปั่น ๆ ๆ เจ้าพาหนะสองล้อซอกแซกไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจจะช้าหน่อย แต่ข้อดีของมันก็อยู่ตรงนี้เนี่ยแหละ การขี่จักรยานเที่ยวจะทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนสองข้างทางได้อย่างใกล้ชิดและละเมียดละไมมากขึ้น ว่าแล้ว ฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว โดย กองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว(กสล.)
จึงได้จัดทำ คู่มือท่องเที่ยวจักรยาน “Cycling in Amazing Thailand” ฉบับภาษาอังกฤษขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวอันหลากหลายของไทยไปยังนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ของดี ๆ อย่างนี้เค้าก็ไม่ได้หวงห้ามสำหรับเจ้าบ้านอย่างเราหรอกนะ ถ้านักเที่ยวชาวไทยคนไหนสนใจก็ไปรับได้เหมือนกัน โดย "คู่มือท่องเที่ยวทางจักรยาน" นี้ จัดพิมพ์ในรูปเล่มขนาด A4 จำนวน 32 หน้า ภายในเล่มประกอบด้วย ข้อแนะนำในการท่องเที่ยวทางจักรยาน เส้นทางท่องเที่ยว จำนวน 12 เส้นทาง มีทั้งระยะสั้นและระยะไกลตั้งแต่ 25 กิโลเมตรจนถึง 880 กิโลเมตร ได้แก่ เส้นทางค้นพบวิถีชีวิตไทยที่อัมพวา สมุทรสงคราม เส้นทางย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองเก่าอยุธยา
เส้นทางชมความงดงามของวิถีชีวิตเกษตรของคนไทยในที่ราบภาคกลาง เส้นทางตลาดน้ำสู่ชายหาดที่สงบและเป็นส่วนตัวที่หัวหิน เส้นทางท้าทายหัวใจท่องไปในหุบเขาภาคเหนือ หรือเส้นทางขี่ล่องท่องไปหาประสบการณ์แปลกใหม่จากที่ราบภาคกลางสู่สวรรค์แห่งภาคใต้ นอกจากนี้ยังแนะนำบริษัทนำเที่ยวที่ให้บริการนำเที่ยวทางจักรยานอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถขอรับ "คู่มือท่องเที่ยวทางจักรยาน"
ได้ที่ ททท. สำนักงานใหญ่ หรือ สำนักงาน ททท. ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ หรือ
สามารถดาวน์โหลดได้ตามลิ้งค์นี้ http://green.in.th/node/1287
และยังมีเรื่องดๆีเพือ่ธรรมชาติได้ที่ www.green.in.th นะ

Monday, December 22, 2008

Doi Pha Mon Highland Agricultural Extension Office


Doi Pha Mon Highland Agricultural Extension Office in Amphoe Thoeng located in touch the spectacular scenery ‘Sea of Mist’ & ‘Fantastic Sunrise’ on Phu Chi Fa and the splendid flower bed of ‘Tulips’. This is a place to observe the recycled plantations of ‘temperated climate plant’.


Open daily from 08.00-16.30 hrs. Tel: 0 5371 4023

Fax: 0 5371 4024




There are other Agricultural Extension Offices which are also interesting as follow;

1. Mae Chan District Agricultural Extension Office Tel: 0 5377 1654

2. Hua Mae Kham Highland Agricultural Extension Office Tel: 0 5377 3496

3. Chiang Rai Agricultural Research Center Tel: 0 5367 8202


ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรดอยผาหม่น
เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหนึ่งของ จ . เชียงราย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามากนัก นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูชี้ฟ้า ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวของที่นี่ โดยเฉพาะดอกทิวลิป และดอกลิลลี่ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรดอยผาหม่นซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมด้านการเกษตร บนพื้นที่ 113 ไร่ บนความสูงกว่า 1,000 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี



ที่นี่ เป็นสถานที่ เพาะปลูกไม้เมืองหนาวหลายชนิด เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ ดอกชัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาตย์สีแดง หลากสีหลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามเห็นภูเขาน้อยใหญ่เรียงสลับกันอย่างสวยงาม สีเขียวขจีของต้นไม้ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้โดยรอบ ไฮไลต์ที่สำคัญของที่นี่ ก็คงเป็นการเปิดให้เข้าชมแปลงดอกทิวลิปหลากสีดอกลิลลี่ และยังมีดอกไม้เมืองหนาวอีกมากมาย บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยจะมี จัดเทศกาล ดอยทิวลิปบาน ที่ดอยผาหม่น ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ดอกทิวลิปบานแล้วจะอยู่ได้ราว 1 สัปดาห์เท่านั้น และเป็นดอกไม้ที่ชอบอากาศหนาวจะอยู่ในอณุหภูมิที่ 10-15 องศาเซียลเซียส ศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกไม้เมืองหนาว




จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อศึกษาและทดสอบในการนำทิวลิปเข้ามาปลูกในเมืองไทย ทิวลิปของที่ดอยผาหม่นมีสายพันธุ์เป็นร้อยสายพันธุ์แต่ที่ทดสอบแล้วปลูกได้ในเมืองไทยมีอยู่ 30 สายพันธุ์ ส่วนที่นำมาทดลองปลูกมี 11 สายพันธุ์ที่ทนทานรับกับสภาพอากาศบนดอยได้ การปลูกต้องใช้หน่อที่นำเข้าจาก เนเธอร์แลนด์ และใช้ครั้งเดียว ซึ่งอุณหภูมิจะเป็นตัวกำหนดการออกดอกศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่นโทร 053 767 7066 และ 053 918 8555



การเดินทางไปดอยผาหม่น


1. รถยนต์ส่วนตัว


- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ถึงอำเภอเทิง ระยะทาง 64 กม.ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1021 แยกซ้ายขึ้นบ้านฮวกผ่านน้ำตกภูซาง ถึงศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ระยะทาง 63 กม. รวม 127 กม


.- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ถึงอำเภอเทิง ระยะทาง 64 กม. แยกขวา ถึงศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ระยะทาง 30 กม. รวม 94 กม.


- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ถึงอำเภอเทิง ระยะทาง 64 กม. แยกซ้ายผ่านบ้านปางค่า ถึงบ้านเซ้งเม้ง แยกขวาถึงภูชี้ฟ้า ระยะทาง 49 กม. รวม 113 กม.



- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1016 ผ่านอำเภอเชียงแสน,อำเภอเชียงของ,อำเภอเวียงแก่น แยกซ้ายที่บ้านปางหัด ถึงผาตั้ง ระยะทาง 184 กม.




2. รถโดยสารประจำทาง


การเดิินทางมายังดอยผาหม่นจะอาศัยรถที่ขึ้นมาส่งนักท่องเที่ยวยังภูชี้ฟ้าเนื่องจากดอยผาหม่นเ็ป็้นทางผ่านที่จะไปยังภูชี้ฟ้า ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเที่ยวที่ภูชี้ฟ้าก่อน แล้วค่อยแวะดอยผาหม่นในขากลับ


- รถตู้ไปภูชี้ฟ้า มี 2 เวลา คือ 07.15 ,13.00 ค่าโดยสาร 150 บาท ขากลับจากภูชี้ฟ้ามาเชียงราย มี 2 เวลา คือ 09.00 น. ,15.00 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ช.ม.


- รถโดยสารประจำทาง สาย เชียงราย-เชียงคำ หรือ เชียงราย-เทิง-เชียงของ ไปลงที่ อ .เทิง รถออกทุก 30 นาท ี ค่ารถประมาณ 33 บาท หลังจากนั้นเหมา็รถสองแถวไปภูชี้ฟ้าโดยคิดราคาเหมาประมาณ 800-900 บาท




สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงภูชี้ฟ้าดอยผาตั้งนำ้ตกอุ่นภูซาง
ที่พักศูนย์ฯ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว 3 หลัง


ราคา 1,200 บาท/หลัง พักได้หลังละ 10–15 คน ไม่มีร้านจำหน่ายอาหาร ต้องสั่งจองล่วงหน้า


- บ้านสายธาร พักได้ 10 คน ที่นอนเสริม 3 ที่


- บ้านขุนเขา พักได้ 15 คน ที่นอนเสริม 5 ที่ - บ้านแมกไม้ พักได้ 15 คน ที่นอนเสริม 4 ที่


- เต็นท์เช่า สำหรับ 1-2 คน คืนละ 180 บาท/หลัง


- เต็นท์เช่า สำหรับ 3-4 คน คืนละ170 บาท/หลัง


- นำเต็นท์มาเอง คืนละ 70 บาทอัตราค่าที่พักพร้อมอาหารเช้า-เย็น คืนละ 400 บาท/คน เฉพาะที่พัก คืนละ 200 บาท / คน

ขอบคุณที่มา http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangrai/doiphamon.html

Sunday, December 21, 2008

Bangkok - Chiang Rai


CHIANGRAI : How to get there
By Air
Thai Airways has daily flights connecting Bangkok with Chiang Rai. For more information, contact their Bangkok office at tel. 0 2280 0060, 0 2628 2000, the Chiang Rai Office tel. 0 5371 1179, 0 5371 5207, or view their website at
www.thaiairways.com
One-Two-Go offers daily flights from Bangkok to Chiang Rai. Call 1126 or book online at http://www.fly12go.com
SGA offers flights to Chiang Rai. Call 0 2664 6099 or visit:
www.sga.co.th
By Bus
The coach ride from Bangkok to Chiang Rai is probably best made overnight since passengers can avail themselves of sleep prior to an early morning arrival. There are both air-conditioned and non-air-conditioned bus services from Bangkok's Northern Bus Terminal (Mochit 2 Bus Terminal) on Kamphaengphet 2 Road. The journey may take approximately 9-11 hours.
By Car
Take Highway No. 1 (Phahonyothin Road), turn to route No. 32 passing Ayutthaya, Angthong and Singburi Provinces and change to route No. 11 passing Phitsanulok, Uttaradit and Phrae Provinces then turn left to Highway No. 103, drive through to Ngao District and turn right onto Highway No. 1 which takes you to Phayao and Chiang Rai Provinces. The total distance is 785 km.
By Rail
There is no direct train to Chiang Rai. You have to take a train to Lampang (9 hrs. from Bangkok) or Chiang Mai (11 hrs.) and then take a bus to Chiang Rai. (2 hrs. from Lampang and 1.30 hrs. from Chiang Mai) For more details, call the State Railway of Thailand, 1690 (hotline), or 0 2223 7010 or 0 2223 7020.




Chiang Mai - Chiang Rai
By Bus
Chiang Rai is 182 kilometers north of Chiang Mai. Air conditioned buses leave 12 times daily from Chiang Mai Arcade Bus Terminal to Chiang Rai. Some buses continue to Mae Sai and Chiang Saen.
By Air
Airlines have numerous daily flights servicing the Bangkok-Chiang Mai route and the Chiang Mai-Chiang Rai route.

Saturday, December 20, 2008

CHIANGRAI , THAILAND


Chiang Rai, the northernmost province of Thailand is about 785 kilometers north of Bangkok. Situated on the Kok River basin, Chiang Rai covers an area of approximately 11,678 square meters with an average elevation of 580 meters above sea level. The province, which is located within the renowned Golden Triangle area where Myanmar, Laos and Thailand converge, is also known as the gateway to Myanmar, Laos and Southern China.

Chiang Rai, which was founded in 1262 by King Meng Rai,was the first capital of the Lanna Thai Kingdom (Kingdom of a million rice fields), which was later conquered by Burma. It was not until 1786 that Chiang Rai became a Thai territory and was proclaimed a province during the reign of King Rama VI in 1910.

Today, Chiang Rai is a travelers paradise endowed with abundant natural tourist attractions and antiquities; the province itself is evidence of past civilization. Attractions range from magnificent mountain scenery, ruins of ancient settlements, historic sites, Buddhist shrines and ethnic villages as the province is also home to several hill tribes who maintain fascinating lifestyles. For those interested in the natural side of Chiang Rai, jungle trekking is recommended along various trails.


Chiang Rai which tends to be a little more ’laid back’ now competes with Chiang Mai as a tourist attraction and is fast becoming a popular escape for tourists wanting to get away from the troubles they left behind.

Thursday, December 18, 2008

Bangkok Countdown 2009


Date : 1st December 2008 - 15th January 2009


Venue : Ploenchit – Ratchaprasong – Pratumwan area, Bangkok

Activities :


1. Lighting Decoration : 1st December 2008 – 15th January 2009 at Ploenchit – Ratchaprasong – Pratumwan area, Bangkok


2. Countdown from 31st December 2008 – 1st January 2009 at Ratchaprasong area, Bangkok

3. Live concert and various entertainment activities/ Light and Sound show/ Countdown to the year 2009


4. Worship for luck with 9 temples


- Wat Kanlayanamit Woramahawihan


- Wat Chanasongkhram Ratchaworamahawihan


- Wat Phra Chetuphon Wimonmangkhalaram (Wat Pho)


- Wat Phrasirattanasatsadaram (Wat Phra Khao)


- Wat Rakhang Khositaramworamahawihan


- Wat Suthat Thepwararamworamahawihan


- Wat Arun Ratchawararamworamahawihan (Wat Chang)


- Wat Bawonniwetwihan


- Wat Saket Ratchaworamahawihan




Contact: - Events Planning Division, Tourism Authority of Thailand

Tel : 0 2250 5500 Ext : 3465-7- TAT Call Centre 1672



Wednesday, December 17, 2008

งานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2552 กรุงเทพมหานคร


- กิจกรรมประดับตกแต่งไฟฟ้า : วันที่ 1 ธันวาคม 2551 – 15 มกราคม 2552 ย่านเพลินจิต – ราชประสงค์ – ปทุมวัน– กรุงเทพมหานคร


- กิจกรรมนับถอยหลัง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2551 – 1มกราคม 2552 ย่านราชประสงค์ ในเขตกรุงเทพมหานคร

- การแสดงดนตรีและกิจกรรมบันเทิงต่างๆ /การแสดงแสง เสียง สื่อผสม / การนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


ไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคล 9 พระอารามหลวง


- วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร


- วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร



- วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)


- วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)


- วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


- วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร


- วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)


- วัดบวรนิเวศวิหาร


- วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
http://thai.tourismthailand.org/festival-event/festival-event.php

Tuesday, December 16, 2008

NAN, THAILAND


A quiet and tranquil province, Nan nestles in a verdant valley in northern Thailand. About 668 kilometres from Bangkok, it covers an area of 11,472 square kilometres and is made up of the following districts: Mueang, Wiang Sa, Na Noi, Pua, Chiang Klang, Tha Wang Pha, Thung Chang, Mae Charim, Ban Luang, Na Mun, Santi Suk, Bo Kluea, Chaloem Phra Kiat, Song Khwae, and Phu Phiang.

The people of Nan descend from the Lan Changs (Laotians). Their forebears moved to settle around present-day Pua district which is rich in rock salt deposits, about 700 years ago at the time when Sukhothai was becoming the kingdom of the Thais. They subsequently moved south to the fertile Nan River basin which is much more extensive.

Nan's history is deeply involved with its neighbours, in particular Sukhothai which played an important role in both political and religious terms before Nan became a part of Lanna, Burma and Thailand in that order. Today Nan is still the home of numerous Thai Lue and other hilltribes who retain highly interesting customs and traditions.



http://www.oceansmile.com/N/Nan/NANm11.htm


PAI, Wat Phra That Mae Yen, Konglan, Pong Nam Ron Ta Pai , Wat Klang, Mor Pang Waterfall



Mae Yen Waterfall (น้ำตกแม่เย็น) Mae Yen Waterfall is situated in Ban Mae Yen. Tambol Mae Hi, about 30 kilometers from Pai. It is a tree-tiered waterfall and one of the most beautiful waterfall in Pai. It takes 3-5 hours to get this water on foot.

Wat Phra That Mae Yen ( วัดพระธาตุแม่เย็น ) Wat Phra That Mae Yen is in Ban Mae Yen, Tambol Mae Hi, is located on a hill from where visitors overlook the whole Pai after paying tribute to the shrine.

Kongland (กองแลน) Kongland is in Ban Rong Yang away from Pai District 7 kilometers. It is hight eroding cliff just like Pa Muang Pee in Phrae Province, which is a large area around 8,000 aquare meters connected the way Maemalai-Pai.

Pong Nam Ron Ta Pai (โป่งน้ำร้อนท่าปาย) Pang Nam Ron Ta Pai is The Mouth of a Spring at Pai Pier in Mae Hi. Go along the route No.1095 at the kilometers of 87-88 turn left and go along the way to Ban Ta Pai. You'll see it on your right. The Mouth of the spring is surrounded with a lot of Teak trees. You can put tent here.

Wat Nam Hu ( วัดน้ำฮู ) Wat Nam Hu is about 3 kilometers from Pai Market contain a sacred Chiang Saen Buddha image, 24 inches wide at the base and 30 inches high. The image's topknot can be opened and contained holy water, revered by local folk.



Wat Klang ( วัดกลาง ) Wat Klang is in Tambol Wiang Tai , near the bus station. In the precincts of this temple, a main Chedi of Thai Yai style stands in the center of the temple yard, surround by Mon Chedis below which Buddha image of the seven days of a week are put in niches.


Mor Pang Waterfall (น้ำตกหมอแปง) Mor Pang Waterfall is localed 9 kilometers from Pai and can be reached convenienly by car. The surrounding area is shady and beautiful. Near by are Muang Soi Waterfall and a peaceful Muser ( Lahu ) tribe village.


Monday, December 15, 2008

NAN : How to get there

By Car
From Bangkok, take Highway No. 32 to Nakhon Sawan and use Highway No. 117 to Phitsanulok, Highway No. 11 to Amphoe Den Chai, then take Highway No. 101 to Nan via Phrae, a total distance of 668 kilometres.
By Bus
Transport Co. Ltd. operates bus services from Bangkok's Mochit 2 Bus Terminal to Nan every day. Call 0 2936 2852-66 or visit
www.transport.co.th for more information. Other private companies are such as Phrae Tour Tel: 0 2245 2369, Sombat Tour Tel: 0 2936 2495-6 and Choetchai Tour Tel: 0 5471 0362 (Nan Office).
By Air
PB Air flies from Bangkok to Nan. Visit www.pbair.com for more information.

Sunday, December 14, 2008

Pai Adventure, THAILAND

Pai adventure
Join us for 45 Km of exciting white water rafting along the Nam Kong and Pai Rivers. We offer 1 and days trip with 15 thrilling rapids. Our friendly guides are trained to ensure your safety and provide a fun friendly atmosphere. However, white water thrills are only where the fun begins! Along the way you will stop to swim and play under the way you will stop to swim and play under the sparking cascade of the Susa Waterfall. You will marvel at the spectacular remote jungle scenery, and amazing wildlife. Upon arrival at our comfortable riverside camp, our guides will be leading a 20 minute trek through the jungle to explore “Tiger Cave”. After enjoying a delicious dinner, there will be entertainment around the campfire while you enjoy a cup of coffee or tea under the sky full of stars. Following an American style breakfast, you begin your second day on the river. During this day, the rapids pick up tempo in the Pai River gorge.
Thrown slap-dash together the waves here will leave you exhilarated with smiles all around. Challenge yourself by daring to leap from our jumping rock, and plunge 7 meters into the river below. Your adventure will draw to a soothinscenic conclusion at Mae Surin National Park. You may then choose to return to Pai or it can be arranged for you to say in Mae Hongson.
“Northern Green Tour has the most progressive safety standards of any white water rafting company in Thailand. If you are seeking a friendly, fun and adventure experience. We highly recommend this company as the best quality white water out fitter in South-East Asia”

Saturday, December 13, 2008

การเดินทางมาอำเภอปาย, PAI. THAILAND

การเดินทางมาอำเภอปาย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวไปตัวอำเภอปายนั้นเริ่มจาก กทม.ให้ใช้เส้นทาง ที่ขึ้นไปเชียงใหม่คือ ทางหลวงหมายเลข 1 แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ จากนั้นเลี้ยวกลับเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 ขับมุ่งหน้าสู่กำแพงเพชร ตาก พอถึงลำปางให้ ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ตรงไปตลอดจนถึงเชียงใหม่ นอนพักที่เชียงใหม่ซัก 1คืน เพื่อเป็นการพักคน พักรถ รุ่งเช้าก็มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย โดยไปทาง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จากนั้นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 วิ่งตรงไป ก่อนถึง อ.แม่แตง จะมีทางแยก คือ สามแยกแม่มาลัย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 ทางช่วงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาลงเขาตลอด ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง จากสามแยกแม่มาลัยถึงตัว อำเภอปาย ระยะทางประมาณ 80 ก.ม. ถ้านับจากตัวเมืองเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 130 ก.ม. ต้องใช้ เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง สำหรับรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าเป็นรถโดยสารประจำทาง จะใช้เวลาถึง 4 -5 ชั่วโมงเลยทีเดียว อันเนื่องจากเป็นทางที่ตัดผ่านพื้นที่ภูเขานั่นเอง ..และในเส้นทางนี้จะผ่านอุทยาน แห่งชาติห้วยน้ำดังด้วย
รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางไปโดยรถประจำทางนั้น ก็ง่ายๆๆครับ ไปขึ้นรถที่หมอชิตครับ บริษัทไหนก็ได้ แต่ถ้าจะให้นั่ง นอน สะดวกขอแนะนำ รถ VIP 24 ที่นั่งของ บขส.ครับ ราคา 625 บาท แต่ถ้าเป็นรถ ป.1 ก็จะอยู่ราวๆ 400 กว่าบาทครับ โดยจองตั๋วไปลงที่เชียงใหม่ เพราะเราต้องไปต่อรถ ที่อาเขต(ขนส่ง)เพื่อที่จะไปยัง อ. ปาย โดยรถที่จะไปปาย เป็นของ บ.เปรมประชา ขนส่ง จำกัด ซึ่งได้รับสัปทานวิ่งสาย เชียงใหม่-ปาย- แม่ฮ่องสอน โดยรถจะจอดที่ชานชลา ที่ 7-8 มีรถวิ่งตามเวลาดังนี้ครับ 07.00 09.00 10.30 12.00 13.30 16.00 ส่วนขากลับ 08.00 09.00 10.30 12.00 13.30 16.00 ทั้งนี้ต้องสอบถามเวลากันเอาเองนะครับ เพราะเวลาที่นี่ไม่ค่อยจะตรงซักเท่าไหร่ ยังงัยก็โทรไปสอบถามที่ บ.เปรมประชา ขนส่ง โทร.0-5324- 4737
รถสองแถว
ทั้งขาไป-ขากลับจะมีรถสองแถวคอยรับ คนที่จะไปปายครับ ถ้าทนการเบียดเสียดไม่ไหว รถสองแถวน่า จะเป็นอีกทางเลือกนึง ค่าโดยสาร คนไทย 100 บาท ต่างชาติ 150 บาท ได้ซัก 10 คนเค้าก็ออกรถเลย ถ้าไม่ถึง 10 คนก็ต้องรอนะครับ รถจะจอดข้างๆๆขนส่ง(ทั้งที่อาเขตและที่ อ.ปาย)นั่นแหละ ไม่ต้องห่วง ครับเดี๋ยวก็จะมีคนเข้ามาถามเองแหละ... การเดินทางไปกับรถสองแถว จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เร็ว กว่ารถโดยสาร 1 ชั่วโมงครับ
รถไฟ ไปลงที่สถานีเชียงใหม่แล้วนั่งรถแดงไปต่อรถ เข้า อ.ปาย ที่อาเขต ค้นหาข้อมูลตารางเดินรถไฟ คลิ๊กที่นี่...
เครื่องบิน
ถ้าจะเดินทางโดยเครื่องบิน ขอแนะนำให้ไปลงที่แม่ฮ่องสอน แล้วค่อยๆเที่ยวลงมาเรื่อยๆจะคุ้มกว่า ค้นหาข้อมูลตารางการบินหมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เขต 1 เชียงใหม่ 0-5324-8604,0-5324-8607
ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน 0-5362-0692
บขส.แม่ฮ่องสอน 0-5361-1514
บขส.เชียงใหม่ 0-5364-9116
การบินไทย แม่ฮ่องสอน 0-5361-1299
ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน 0-5361-2057
ตำรวจท่องเที่ยว แม่ฮ่องสอน 0-5361-1952,0-5361-1812 ,1155
สถานีตำรวจภูธร อ.เมือง แม่ฮ่องสอน 0-5361-1239
ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.5 จ.ลำปาง 0-5424-8501
ตู้ยามเถิน 0-5429-1674
ตู้ยามเด่นชัย 0-5461-3098
รพ.ปาย 0-5369-9031
ที่ว่าการอำเภอปาย 0-5369-9195

::: อนันดา / แอม : Happy Birthday :::
















"ของขวัญที่สำคัญที่สุดของคุณคืออะไร ?

สำหรับเขา คือ...เธอ"
เรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวที่บุพเพสันนิวาส ชักนำให้พวกเขาได้มารู้จักกันผ่านตัวหนังสือ ในหนังสือท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน โดยที่พวกเขาไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่มันได้กลายเป็นสื่อกลางที่ทำให้ความรู้สึกผูกพันเกิดขึ้นในใจของทั้ง 2 คน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คนมือบอน 2 คนมารู้จักกัน



เรื่องราวความรักของ "เต็น" ช่างภาพหนุ่มภาคสนามของนิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่ง ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยอุดมการณ์ ได้มารู้จักกับ "เภา" ไกด์สาวผู้เดินทางท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ ผ่านทางตัวหนังสือที่เภามักจะแอบเขียนข้อความฝากไว้ใต้ภาพในนิตยสารท่องเที่ยวในร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งทุกครั้ง หลังจากกลับจากเดินทางครั้งแล้วครั้งเล่า


"เต็น" ไม่พอใจที่เห็นคนมือบอนเขียนลงในหนังสือท่องเที่ยวเล่มนั้น เขาจึงเขียนข้อความฝากไปถึงคนมือบอนคนนั้น จนกระทั่งได้พบกับ "เภา" ที่ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน


พวกเขานัดเจอกันครั้งแล้วครั้งเล่า เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วยกัน แล้วทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะดูแลกันและกันตลอดไป



แต่เรื่องราวเหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนมาถึงวันครบรอบวันเกิดของ"เต็น" เภาซึ่งเตรียมเอาของขวัญมาให้ แต่มีเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ของขวัญชิ้นนั้นไม่มาถึงมือเขา แต่คำสัญญาที่ทั้งคู่เคยให้ไว้ต่อกัน เป็นดังคำมั่นที่เต็นยังคงเก็บและรอคอยว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป






Friday, December 12, 2008

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 81 ของประเทศไทย ซึ่งกรมป่าไม้ได้เลือกให้เป็นอุทยานแห่งชาติฉลอง 100 ปี กรมป่าไม้และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ปีที่ 50 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2539 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ได้เสด็จทรงประกอบพิธีเปิดป้ายอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอย่างเป็นทางการ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีจุดชมวิวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติความงดงามของท้องทะเลหมอก สามารถที่จะมองเห็นเทือกเขาดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงที่สลับซับซ้อนทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้และอยู่ในแนวเดียวกันกับเทือกเขาเชียงดาว ภูเขาต่าง ๆ ในพื้นที่ที่มีความสูงชันตั้งแต่ 500-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ได้แก่ ห้วยแม่เย็น ห้วยแม่ฮี้ ห้วยแม่ปิง ห้วยแม่จอกหลวง ห้วยน้ำดัง เป็นต้น รวมกันไหลลงสู่แม่น้ำปาย แม่น้ำปิง แม่น้ำแตง


ลักษณะภูมิอากาศฤดูฝน
ระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม ฤดูหนาว
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ จะมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 9°c
ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34°c
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพทางธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้เกิดสังคมพืชหลากหลายชนิด ประกอบด้วยป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าสนเขา มีพรรณไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ตะเคียน ยาง จำปีป่า ยมหอม มะม่วงป่า ยมป่า เสลา ดงดำ แดง ประดู่ ตะแบก ตีนนก งิ้วป่า สนสองใบ ไม้ก่อต่าง ๆ เต็ง รัง เป็นต้น

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่า จึงชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ได้แก่ ช้างป่า กวาง หมี เก้ง เลียงผา หมูป่า เสือ ชะมด ลิง พังพอน เม่น ไก่ป่า ไก่ฟ้า และนกนานาชนิด ได้แก่ นกเปล้า นกแก้ว นกขุนทอง นกขมิ้น นกปรอท และ นกเหยี่ยว เป็นต้น

Thursday, December 11, 2008

Poi Sang Long Ceremony 2008 in Mae Hong Son

Mae Hong Son Tourism Coordination Center; Tourism Authority of Thailand (TAT.) invites tourists to take part the Poi Sang Long ceremony during 6-8 April 2008 at Don Chedi Temple in Mae Hong Son Municipal of Mae Hong Son Province.
The Mae Hong Son Municipality will hold this ceremony for 3 days and there will be the interesting activities as follow:
The first day of Sunday, 6th April 2008, beginning when the boys have their heads shaved by parents and relatives. Then, they are bathed and anointed with special waters and dressed up elegantly and colorfully while their faces are superbly embellished. By this time, the boys are known locally as 'Sang Long' or 'Look Kaew' (jewel sons). The parade moves around Mae Hong Son Municipal, visiting temples to beg forgiveness from abbots and the city pillar at the beginning of the journey. By late afternoon, the boys are carried back to their homes.
The second day of Monday, 7th April 2008, a grand colorful procession is held, filled with family members and important components of Mae Hong Son’s Shan community. In the parade, there are handmade floats, offerings for the temple, traditional dance and, of course, the boys themselves. The parade begins at Don Chedi Temple, in the city, before it moves down the main streets of town and out to the temples.
The third day of Tuesday, 8th April 2008, the procession once again proceeds through the town and the boys are taken to Don Chedi Temple for the formal ordination ceremony. This year, apart from the Poi Sang Long ceremony at Don Chedi Temple in Mae Hong Son Municipal, tourists can join Poi Sang Long ceremony at other places as follows:


1. At Pang Moo Temple, Muang district from 3rd - 5th April 2008. For more information contact Pang Moo Sub-district Organization Administration at Tel. 053-613341.

2. At Sri Boon Rueng temple, Mae Sarieng district from 18th-20th April 2008. For more information contact Sri Boon Rueng Temple at Tel. 053-621328, 081-8853312.

3.At Muai Tor temple, Khun Yuam district from 6th-8th April 2008. For more information contact Muai Tor Temple at Tel. 053-691081.

Poi Sang Long ceremony in Mae Hong Son is a Buddhist novice ordination ceremony, but unlike any other ceremony of its type in the country. Young boys aged between 7 and 14 are ordained as novices to learn the Buddhist doctrines. It's believed that they will gain merit ordaining for their parents. The origins of this festival lie in Buddhist legend. It is believed that the tradition is probably following in the footsteps of Prince Rahula, the Buddha's own son, who gave up his worldly life to follow his father's spiritual teachings. Prince Rahula became the youngest ordained monk and the first novice in Buddhism. Subsequently it became a tradition that young boys should ordain to learn Buddhist teachings. With such high reverence to the Buddhist religion, the people here consider that the celebrations should be as grand as possible.
This colorful festival is one of the most delightful in Mae Hong Son, attracting people from far and wide. The local authorities and the Tourism Authority of Thailand consider this festival to be unique to Mae Hong Son province.
Mae Hong Son Tourism Coordination Center (TAT.) cordially invites all tourists to take part Poi Sang Long ceremony during 6-8 April 2008 at Don Chedi temple or at other places and enjoy the charm of Mae Hong Son City. More information please contact at 053-612982 or at www.travelmaehongson.org

เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ - Scrubb สครับบ์